เชิญคอบอลมาทำความรู้จักกับคลับไลเซนซิ่ง

ภายหลังที่มีมติจากทาง สัมพันธ์ฟุตบอลที่เมืองไทยให้สโมสรในลีก M-150 แชมป์เปี้ยนชิพ (ไทยลีก 2) อย่าง จังหวัดนครปฐม ยูไนเต็ด และก็ จังหวัดสมุทรสงคราม เอฟซี ถูกปรับตกชั้นให้ลงไปเล่นในระดับ ยูโร เค้ก ลีก (ไทยลีก 4) ในช่วงฤดูกาล 2018 เพราะว่ายื่นอุทธรณ์ไม่ผ่านเรื่องคลับไลเซนซิ่ง ด้วยเหตุนั้นในเนื้อหานี้เราจะมากล่าวถึงแบบคร่าวๆว่า คลับไลเซนซิ่ง มันคืออะไร และก็มีความหมายอย่างไรต่อสมาพันธ์ฟุตบอลอาชีพ


ประการแรกเลยนั้นมาทำความรู้จักกันก่อนว่าเป็นยังไง คลับไลเซนซิ่ง คือใบอนุมัติหรือเอกสารการันตีการเป็นชมรมฟุตบอลอาชีพที่ตามมาตรฐานตามหลักมาตรฐานของสหพันธรัฐบอลของทวีปนั้นๆซึ่งจะมี 5 หลักเกณฑ์ใหญ่ๆดังต่อไปนี้

1.ด้านกีฬา
– แผนโครงสร้างการพัฒนาเยาวชนที่ได้รับรองมาตรฐาน

– มีกลุ่มเยาวชนระดับอายุต่างๆที่แน่ชัด

– การดูแลทางการแพทย์แก่นักกีฬา

– มีข้อตกลงนักกีฬาอาชีพ

2.ด้านโครงสร้าง
– สนามสำหรับเพื่อการแข่งขันได้รับมาตรฐาน มีการทะนุบำรุงหญ้าโดยตลอด

– เอกสารสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างสนามสำหรับแข่ง

– ห้องควบคุมด้านในสนามแข่งขัน และห้องสื่อมวลชนที่สบายต่อการทำงาน

– อรรธจันทร์ที่มีข้างหลังคมากกว่าหนึ่งในสามของที่นั่ง

– มีห้องรักษาพยาบาลเบื้องต้น

– ความปลอดภัย ที่สอดคล้องกับข้อบังคับของประเทศ

– แผนการเปลี่ยนที่ในกรณีเร่งด่วน ยกตัวอย่างเช่น เรื่องก่อเหตุร้ายแรง

– สนามฝึกซ้อมซึ่งสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งปี

3.ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
– สถานที่ทำการและข้างธุรการของสโมสร

– มีบุคลากรครบถ้วนสมบูรณ์ในทุกด้าน ตั้งแต่ผู้จัดการทั่วไป ทนาย เจ้าหน้าที่บัญชีไปจนถึงหัวกน้าสต๊าฟผู้ฝึกสอนทีมชุดใหญ่ หรือ เฮดโค้ชระดับเยาวชน จำต้องได้รับ เอ ไลเซนส์ของ เอเอฟซี หรือ เทียบเท่าที่เอเอฟซีการันตี

4.ทางกฎหมาย
– ควรจะมีการลงนามแสดงความยินยอม ดูบอลสดคืนนี้ ตอบรับเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันชิงชัยระดับสมาคมตามมาตรฐาน เอเอฟซี

– จะต้องมีใบรับรองการเขียนทะเบียนบริษัท

5.เรื่องการเงินแล้วก็การบัญชี
– งบประมาณประจำปีของสโมสรได้รับการวิเคราะห์โดยผู้มีหน้าที่คอยตรวจสอบบัญชี

– งบประมาณระหว่างปีของชมรมได้รับการประเมินขั้นแรกโดยผู้สอบบัญชี

ซึ่งจากหลักเกณฑ์ที่ว่ามานั้น ทีมที่จะได้รับคลับไลเซนซิ่ง ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีทุกข้อที่กล่าวมา เพราะ คลับไลเซนซิ่งนั้นมี 3 ระดับ โดยสาระสำคัญของแต่ละระดับจะต่างกันแค่การใช้ข้อความเพียงแต่นิดหนึ่งดังนี้

ระดับ C “จะต้องมี” แม้จะขาดในข้อนี้ไป แต่ว่าก็ยังได้รับเอกสารสิทธิ์ และควรมีแผนที่จะทำในอนาคต
ระดับ B “ควรมี” ในกรณีนี้ถ้าเกิดขาดข้อใดข้อหนึ่งที่สโมสรจะต้องมี คณะกรรมการจะพินิจพิเคราะห์ให้ใบอนุมัติหรือไม่ก็ได้
ระดับ A “ควรมี” ทุกข้อทุกสิ่งที่กล่าวมา
ส่วนในกรณีของ ทั้งคู่ทีมทำไมต้องตกชั้น ไม่ใช่ว่าไม่มีคุณสมบัติในทุกข้อ แต่ว่าเหตุเพราะทั้งคู่สมาคมไม่ได้ส่งหลักฐานยื่นขอเอกสารสิทธิ์สโมสร (คลับ ไลเซนซิ่ง) เพื่อกระทำชิงชัยในช่วงฤดูกาล 2018 แต่ในส่วนเรื่องที่ว่าเพราะเหตุไรต้องตกไปเล่นถึงระดับ ไทยลีก 4 ก็เพราะ เป็นลีกที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ คลับไลเซนซิ่ง สำหรับเพื่อการทำชิงชัย ในเนื้อหานี้บางครั้งอาจจะมองน่าเบื่อหน่อยสำหรับใครซักคน แม้กระนั้นเชื่อเถอะ การที่เรารู้แล้วก็เข้ากฎที่ต้องปฏิบัติหรือกฎข้อบังคับของสิ่งที่เราสนใจ มันจะทำให้พวกเราสุขสบายในกับสิ่งนั้นมากยิ่งขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *